ม่วงน้ำตาท่วมชนะ 3-2 ร็อบเบนยิงอะเวย์โกล์พี่เสือเข้า

ม่วงน้ำตาท่วมชนะ 3-2 ร็อบเบนยิงอะเวย์โกล์พี่เสือเข้า


"ม่วง มหากาฬ"ฟิออเรนตินาเล่นกันด้วยสปิริตและทำดีที่สุดแล้วขึ้นนำตลอด ทั้งเกมทำท่าจะได้เฮแต่สุดท้ายเจอทีเด็ดจาก อาร์เยน ร็อบเบน ยิงใบไม้ร่วงเป็นประตูสำคัญช่วย "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค แม้จะแพ้ 3-2 แต่พี่เสือเข้ารอบตามกฎประตูทีมเยือน

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแปดทีม นัดสอง
9 กุมภาพันธ์ 2553

ฟิออเรนตินา 3-2 บาเยิร์น มิวนิค
(รวมผลสองนัดเสมอ 4-4 บาเยิร์นผ่านเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน)
ประตู: 1-0 ฮวน วาร์กัส น.28,2-0 สเตวาน โยเวติช น.54, 2-1 มาร์ค ฟาน บอมเมล น.60, 3-1 สเตวาน โยเวติช น.64 ,3-2 อาร์เยน ร็อบเบน น.65


ครึ่งแรก

วา ร์กัสทักทาย
เปิดแากฟิออเรนตินาลุยแหลกทันทีแค่สิบ นาทีแรกได้เสียวจากจังฟรีคิกระยะ 30 หลา วาร์กัส ตะบันเต็มข้อบอลตกหลังคาน

ฟิออเฮ ได้ประตูที่ต้องการ
เกมดำเนินมาถึงนาที 28 สมฉายาม่วงมหากาฬจริงๆขึ้นนำแล้ว 1-0 มาร์คิออนนี่ เก็บตกจากแถวสองตะบันเต็มข้อระยะ 25 หลาบอลกระดอนตกลงพื้นทำให้ บัตต์ นายทวารเสียจังหวะพุ่งปัดออกมา ฟาน บุนเต็น ประกบอีท่าไหนไม่ทราบปล่อยให้ วาร์กัส ไวทายาทเหลือเกินยิงมุมแคบจากทางซ้ายระยะไม่ถึงสิบหลา เข้าไป

วาร์กัส ลุ้นเบิ้ล
สกอร์จบแบบนี้พี่เสือตกรอบทันทีเลยต้อง ลุยเอาคืนแต่ยังไม่ค่อยมีจังหวะจังๆมากนักอีกสี่นาทีถัดมา วาร์กัส ได้โอกาสสังหารฟรีคิกใกล้ๆริมเส้นทางขวาระยะ 30 หลาข้ามคาน


เสือ อด!ร็อบเบนเหน่งๆ
นาที 33 บาเยิร์นเพิ่งได้โอกาสยิงจะจะ เป็นครั้งแรกของเกมแต่ไม่ได้ประตูอย่างสุดเหลือเชื่อจากจังหวะที่ กองหลังเจ้าบ้านเคลียร์ไม่ขาดโดน ชไวน์สไตเกอร์ โหม่งหนุน มุลเลอร์ ข้ามหลอกบอลหลุดไปถึง ร็อบเบน ดีดด้วยซ้ายโล่งๆแค่แปดหลาแต่ เฟรย์ ปฎิกริยาเร็วสุดเหลือเชื่อปัดออกหลังไป

โคลเซ่ จอมโขก
สิบนาทีสุดท้าย ฟิออเรนตินา เน้นตั้งรับเต็มตัวเจอพี่เสือพับสนามบุกข้างเดียวทดเจ็บเกือบมีลุ้น ลาห์ม แบ็กจอมบุกเปิดบอลจากทางขวาบอลลอยต่ำแต่ โคลเซ่พี่แกยังก้มตัวลงไปโหม่งไม่เข้ากรอบ

ครึ่ง หลัง

ฟิออเล่นเร็วพี่เสือเกือบโดน
กลับ มาเริ่มต้นกันใหม่แทนที่ บาเยิร์น จะได้บุก ฟิออเรนตินา โจมตีเร็วแบบไม่ทันตั้งตัวแค่สองนาทีเกือบได้ประตูทิ้งห่างเป็น 2-0 มาร์คิออนนี่ ผ่านจากทางขวามายังเสาแรก จิลาร์ดิโน่ ชาร์จทันที บุตต์ ต้องใช้ขาสกัดทิ้ง

จิลาร์ สากเรียกพี่
นาที 51 ฟิออพลาดโอกาสทองหลุดลอยไปอย่างไม่ น่าเชื่อ มาร์คิออนนี่ เจ้าเก่าเน้นเจาะทางขวาผ่านเข้าในกรอบเขตโทษสอง กองหลังพี่เสือสกัดพลาดหมดส้มหล่นตกใส่เท้า จิลาร์ดิโน่ ยิงเผาขนแค่หกหลาเท่านั้นไปตรงตัว บุตต์ ที่ยืนนิ่งบอลวิ่งเข้ามา หาเองเซฟได้

จิลาร์ แก้ตัวหนูโยไม่เหลือ 2-0
อีกสามนาทีถัดมา ฟิออเรนตินา เริ่มสบายใจนำห่างเป็น 2-0 มาร์คิออนนี่ ไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษ จิลาร์ดิโน่ ไม่ต้องยิงดีกว่าโชว์ทักษะตอกลูกเส้นมาให้ โยเวติช ยิงเหน่งๆแค่สิบหลาเข้าไป

พี่เสือ ต้องลุ้นโคลเซ่วืด
เจอแบบนี้เข้าไปพี่เสืออยู่ไม่ได้ แล้วต้องเอาคืนให้ได้นาที 55 ร็อบเบน หยอดฟรีคิกระยะ 40 หลาเข้าไปในกรอบเขตโทษ โคลเซ่ พยายามล้มตัวชาร์จเผาขนไม่โดนเข้าซอง เฟรย์

หน้าบาก ทำดีพี่มาร์คใส่สกอร์
เกมตกเป็นของบาเยิร์นกระทั่งหนึ่งชั่วโมง ตามตีไข่แตกไล่มา 1-2 จากความสามารถเฉพาะตัวล้วนๆของ ริเบรี่ เงียบไปทั้งเกมคราวนี้พี่แกพาทัวร์ดึงกองหลังฟิออมาได้ถึงสามคน ก่อนไหลเข้ากลาง ฟาน บอมเมล เฉียบขาดมากยิงทันทีแบบไม่ต้องจับบอลผ่าน มือ เฟรย์ เบียดเสาล่างซ้ายเข้าไป

หนูโย แผลงฤทธิ์เฮนำอีก
แม้ ฟิออเรนตินา ยังนำแต่รวมสองนัดเสมอ 3-3 ยังไม่มีใครเข้ารอบอาจต้องต่อเวลา ทีมม่วงเลยต้องลุยต่อและมาได้ประ ตูที่ต้องการจากการประสานงานของคู่กองหน้า วาร์กัส เจาะทางซ้ายทำชิ่งหนึ่ง-สองกับ จิลาร์ดิโน่ ไหลคืนให้หนูโยซัดรอดขา บุตต์ เข้าไป "วิโอล่า" หนี 3-1 จบแบบนี้พี่เสือตกรอบทันที

ร็อบเบน ยิงโลกตะลึง
ฟิออเรนตินาอุตส่าห์ได้ดีใจก็แค่นาที เดียวเท่านั้นโดนทีเด็ด ร็อบเบน ยิงประตูสุดสวยลากจากทางขวาตัดเข้าใน ก่อนสับไกด้วยเท้าซ้ายระยะ 30 หลาบอลมุดเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปแบบ ใบไม้ร่วง "เสือใต้" ไล่มาเหลือ 2-3

พี่เสือ คุมเกม
ตอนนี้แม้พี่เสือตามหลังอยู่ก็จริงแต่จะเข้า รอบตามกฎอะเวย์โกล์ทันที ฟิออเรนตินา ต้องบุกแหลกและได้ลุ้นจากลูกยิงไกล ของ ปาสกวา แต่ไม่เข้ากรอบก่อนช่วงเวลาที่เหลือ บาเยิร์น จะเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ทั้งหมด


ราย ชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฟิออเรนตินา: เซบาสเตียน เฟรย์,โลเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี้,เชซาเร่ นาตาลี,เพอร์ ครอลดรุป,เฟลิเป้(ปาสกวาล น.79),ริคคาร์โด มอนโตลิโว่,คริสเตียโน่ ซาเน็ตติ,มาร์โก มาร์คิออนนี่,สเตวาน โยเวติช,ฮวน วาร์กัส(เคียร์ริสัน น.82),อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่


บา เยิร์น:ฮัน ยอร์ค บุตต์,ฟิลิปป์ ลาห์ม,ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น,โฮลเกอร์ บัดสตูเบอร์,ดาวิด อาลาบา,อาร์เยน ร็อบเบน,มาร์ค ฟาน บอมเมล,บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์,ฟรองค์ ริเบรี่(พรานยิช น.90+2),โธมัส มุลเลอร์,มาริโอ โกเมซ(มิโรสลาฟ โคลเซ่ น.31)