Google
 

วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553

วิจารณ์ยับ "เบ็คส์" เซ็นเสื้อฟ้าขาว

เบ็คส์ เซ็นชื่อให้แฟนบอลรุ่นจิ๋ว

มีเวลาให้ ครอบครัวมากขึ้น

ครูซ แววควอเตอร์แบ็กจับ

เบ็คส์ (ซ้าย) ปะทะ เบรดี

เดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ถูก "เดอะ ซัน" (THE SUN) สื่อจอมแสบเมืองผู้ดี หยอกแก้มหยิก หลังจากเซ็นชื่อบนเสื้อ อาร์เจนตินา ให้กับแฟนบอล เพราะทั้งคู่มีประวัติศาสตร์ลูกหนังไม่ค่อย กินเส้นกัน

เบ็คแฮม อยู่ระหว่างเยียวยาอาการบาดเจ็บข้อเท้า ทำให้อดติดธงไปลุยศึกฟุตบอลโลกหนที่ 4 ของตนเองที่ แอฟริกาใต้ ในช่วงกลางปีนี้ จึงเหินฟ้ากลับไปอยู่กับ ลอส แองเจลิส กาแล็คซี ต้นสังกัดในเวที เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐฯ และให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น

เบ็คแฮม พาลูกชายทั้ง 3 คน บรู๊คลีน, โรเมโอ และ ครูซ ไปโชว์ลีลาอเมริกันฟุตบอลในสนาม โรส โบวล์ พร้อมปะทะกับ ทอม เบรดี ควอเตอร์แบ็กคนดังของ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ แต่สิ่งที่นักเตะวัย 35 ปี อดีตดาวดัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ รีล มาดริด ถูกวิจารณ์คือก่อนหน้านี้ดันไปเซ็นชื่อลงเสื้อ อาร์เจนตินา ของแฟนบอลรุ่นจิ๋ว

อาร์เจนตินา เคยสร้างรอยแผลให้กับ อังกฤษ ในศึกฟุตบอลโลก 86 เมื่อ ดิเอโก มาราโดนา ตำนาน "ฟ้าขาว" ใช้มือปัดบอลเข้าประตูในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ส่วน เบ็คแฮม ก็เคยถูกไล่ออกในเกมฟุตบอลโลกปี 98 ทำให้ "สิงโตคำราม" ถูกเขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย

วิคตอเรีย อดีตสมาชิกวง "สไปซ์ เกิร์ลส์" (SPICE GIRLS) ภรรยาจอมเว่อร์ของ เบ็คแฮม โต้ข่าวที่ว่ากำลังจะเปิดอู่ปั๊มลูกคนที่ 4 หลังก่อนหน้านี้มีลูกชาย 3 คน "ข่าวลือล้วนไม่เป็นความจริง ฉันไม่ได้กำลังจะตั้งท้อง"

สตีวีจี" ลั่นคว่ำเชลซีเพื่อ ตัวเอง

เจอร์ราร์ด
สตีเวน เจอร์ราร์ด กองกลาง ลิเวอร์พูล ลั่นคว่ำ เชลซี ทว่าไม่ใช่เพื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่รักษาความหวังในการลุ้นโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ต่อไป แม้ว่าจะน้อยนิดก็ตาม จากการตีข่าวของ “เดอะ ซัน”

เวลานี้ ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 7 มี 62 แต้ม จาก 36 นัด แม้จะตามหลังอันดับ 4 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2 แต้ม แถมแข่งมากกว่า 1 นัด แต่ยังมีลุ้นโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก โดยจะต้องชนะ เชลซี และ ฮัลล์ ซิตี พร้อมภาวนาให้อีก 3 ทีมสะดุด

เกมในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคมนี้ ที่จะเปิด แอนฟิลด์ รับมือ เชลซี ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหาก ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ แมนฯยูไนเต็ด จะรับผลพลอยได้มีสิทธิ์จะปาดหน้าคว้าแชมป์ ถึงกระนั้นก็ตาม เจอร์ราร์ด กัปตัน “หงส์แดง” ยืนยันจะสู้เพื่อตัวเองเท่านั้น

เจอร์ราร์ด เผยว่า “เรายังเหลืออีก 2 เกม และตั้งใจจะเก็บ 6 แต้มเต็ม จากนั้นรอลุ้นว่าจะคว้าตั๋ว ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ได้หรือไม่ ถ้าเราชนะ 2 นัดรวดก็ไม่แน่ ใครจะรู้ ทีมที่อยู่เหนือเราอาจจะสะดุด เราก็จะกดดันพวกเขาต่อไป”

“เราจะไม่เลิกหวัง และจะสู้เหมือนหมาจนตรอกเพื่ออันดับ 4 รวมถึงยังมี เอฟเวอร์ตัน ที่หายใจรดต้นคอและต้องการจบฤดูกาลด้วยการ ทำแต้มเหนือเราเช่นเดียวกัน” กองกลางทีมชาติอังกฤษ กล่าวในท้ายที่สุด

แลมพาร์ด

แฟรงค์ แลมพาร์ด ห้องเครื่อง เชลซี ออกโรงเตือนเพื่อนร่วมทีม ว่า ลิเวอร์พูล ไม่มีทางอ่อนข้อให้แน่นอนใน เกมพรีเมียร์ลีกที่ “สิงห์บลูส์” จะบุกไปเยือนในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคมนี้ ดังนั้น ทีมต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่เก็บชัยชนะอีก 2 นัดที่เหลือเพื่อคว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดี

เกิดมีความเห็นที่คล้ายเป็นการดูถูก ลิเวอร์พูล ว่า ทีมดังแห่งถิ่นเมอร์ซีย์ไซด์ อาจไม่เอาจริงเอาจังกับเกมลีกที่จะเปิด สนามแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ เชลซี เพราะไม่ต้องการให้คู่แค้นอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำสถิติคว้าแชมป์ลีก 19 แซงหน้าพวกตน

อย่างไรก็ตาม แลมพาร์ด เชื่อว่า ลิเวอร์พูล มีความเป็นมืออาชีพพอ และจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อคว้าชัยชนะ “ไม่มีทางเลยที่นักเตะ 11 คนของ ลิเวอร์พูล จะลงสนามและคิดถึงการคว้าแชมป์ของ แมนฯยูไนเต็ด ในเกมนัดนั้น พวกเขามีความเป็นมืออาชีพทั้งผู้จัดการทีม และผู้เล่น ไม่มีทางที่พวกเขาจะคิดถึงเรื่องอื่นเว้นแต่ชัยชนะ ไม่ว่ามันจะทำให้พวกเขาได้สิทธิเข้าร่วมยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ในปีหน้าหรือไม่”

“แม้ว่าพวกเขาจะหมดโอกาสแล้วก็ตาม แต่พวกเขาจะทุ่มเทเต็มร้อยอย่างไม่ต้องสงสัย มันจะเป็นเกมที่ยากอีกนัด แต่ไม่ใช่กรณีที่ทำให้เรากังวล เพราะทุกคนตระหนักดีว่าเป็นงานที่ยาก เสมอเมื่อไปเยือนลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันรายการใด สำหรับเราแล้วมีสูตรง่ายๆ คือชนะใน 2 เกมที่เหลือแล้วเราจะคว้าแชมป์ลี กได้ หากทำไม่ได้ เราอาจต้องพึงผลต่างประตูได้เสีย แต่นั้นขึ้นอยู่กับผลงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด” มิดฟิลด์วัย 31 ปี กล่าว

โอลิชแฮททริค !พี่เสือโหดขย้ำ ลียง 3-0 ลิ่วชิง

โอลิชแฮททริค!พี่ เสือโหดขย้ำลียง 3-0 ลิ่วชิง

ไม่มีปาฎิหาริย์ ใดๆเกิดขึ้นที่เมืองน้ำหอม "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ผ่านเข้าไปยืนรอรอบชิงชนะเลิศเป็นทีมแรกหลังได้ อิวิก้า โอลิช รับบทแฮททริคฮีโร่ย้ำแค้น ลียง ขาดลอย 3-0

แช มเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง
วันอังคารที่ 27 เมษายน 2553


ลี ยง 0-3 บาเยิร์น
รวมผลสองนัด บาเยิร์น ผ่านเข้ารอบชิงด้วยสกอร์ 4-0 )

ประตู:
0-1 อิวิก้า โอลิช น.26, 0-2 อิวิก้า โอลิช น.67,0-3 อิวิก้า โอลิช น.78



ครึ่งแรก

พี่เสือ ทักทาย
เปิดฉากไปได้แค่สิบนาทีทีมเยือนได้ลุ้นก่อน จากจังหวะ ร็อบเบน ทุ่มบอลเข้ามาให้ มุลเลอร์ ครอสบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษผ่านหน้า ปากประตูน่าจะมีแข้งพี่เสือสักคนเข้าชาร์จ

ทำทาง สวยโอลิชซัดตุง
เกมดำเนินมาถึงนาที 26 บาเยิร์น มาได้ประตูที่ต้องการจากการต่อบอลสุดสวย มุลเลอร์ พาบอลมาทางซ้ายทำชิ่งหนึ่งสองกับ ร็อบเบน ล็อบหลบ เรเวลแยร์ ก่อนจ่ายหักเข้ากลางให้ โอลิช พลิกหลบตัวประกบ ซิสโซโก้ หมุนตัวยิงเสียบตาข่าย

ลียง เซ็งบาสโต๊สไม่เฉียบ
หลังเสียประตู ลียง พยายามทวงคืนกระทั่งผ่านครึ่งชั่วโมงน่าจะได้ประตูตีเสมอ โกวู เปิดบอลย้อนไปยังเสาสองให้ บาสโต๊ส วางเท้ายิงเน้นๆหลุดกรอบออกไปหน้า ตาเฉย จบครึ่งแรก พี่เสือลูบปากนำ 1-0


ครึ่ง หลัง

ร็อบเบนเซ็งเจอโคตรเซฟ
กลับ มาเริ่มต้นกันใหม่ผ่านไปได้ 10 นาที ลียง ยังไม่ดีขึ้นแถมเกือบโดน บาเยิร์น จะได้ประตูที่สองจากจังหวะ อัลตินท็อป พาบอลมาทางซายก่อนไหลไปทางซ้าย ร็อบเบน ยืนอยู่โล่งๆบรรจงปั่นไซด์โค้งบอลกำลังจะเสียบเสาสองแต่ ญอริส ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดทิ้ง

คริ สประชดแดงเลย
จุดเปลี่ยนของเกมที่ทำให้สถานการณ์ เจ้าถิ่นเข้าขั้นเลวร้ายในนาที 57 จากจังหวะ คริส ไปเสียบสกัด โอลิช กรรมการชูใบเหลืองเท่ากับทำให้ คริส หมดสิทธิ์ลงเล่นนัดชิงดูเหมือนเจ้า ตัวหงุดหวิดไปปรบมือประชดกรรมการเลยโดนใบเหลืออีกใบกลายเป็นแดง ไล่ออก ลียง เหลือสิบคน

โกวู เล่นทีเผลอ
แม้เหลือผู้เล่นแค่สิบคนหนึ่งนาทีต่อมา แต่ ลียง เกือบตามตีเสมอจากจังหวะลักไก่สับไกยิงเต็มข้อระยะ 20 หลาของ โกวู บอลพุ่งเป็นจรวดวิ่งเข้าหากรอบเดือดร้อน บุตต์ นายด่านสุดท้ายต้องทุบทิ้ง

เรียบ ร้อยรร.โอลิชตอกฝาโลง
กระทั่งนาที 67 บาเยิร์น มาได้ประตูนำไปสู่รอบชิงชนะเลิศแบบชัวร์ที่สุด จากจังหวะ อัลตินท็อป จ่ายตัดหลังเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้าย โอลิช สอดทะลุกับดักล้ำหน้ายิงรอดตัว ญอริส นายทวารเสียบตาข่าย "พี่เสือ" ห่าง 2-0

เพื่อน ชงโอลิชแฮททริค
สกอร์รวมทิ้งตามหลังถึง 3-0 ทำให้ ลียง ถอดใจดื้อๆปล่อยให้ บาเยิร์น ไล่ยำอยู่ข้างเดียวจนกระทั่งนาที 78 พี่เสือได้ประตูที่สามของเกมนี้และเป็นแฮททริคของ โอลิช จากจังหวะ ลาห์ม หยอดจากกรอบเขตโทษทางขวาไปหน้าปากประตู โอลิช โหม่งย้อนศรเสียบใต้คานเข้าไป ก่อนเวลาที่เหลือ บาเยิร์น คุมสถานการณ์ไว้ได้หมดและชนะไป 3-0

รายชื่อ ผู้เล่นทั้งสองทีม
ลียง:
ฮูโก้ ญอริส 7,อองโตนี่ เรเวลแยร์ 5,คริส 4,ฌอง อแล็ง บูมซง 6.5,อาลี ซิสโซโก้ 5.5(บาเฟติมบี้ โกมิส 4.5 น.46),มาม โกนาลอนส์ 5,ฌอง มากูน 5.5,ซิดนี่ย์ โกวู 7,เซซาร์ เดลกาโด้ 5(มิราเล็ม ปานิช 4.5 น.67),มิเชล บาสโตส 6.5,ลิซานโดร โลเปซ 4(เอแดร์สัน 4 น.79)


บา เยิร์น:ฮันส์ ยอร์ค บุตต์ 6.5,ฟิลิปป์ ลาห์ม 8.5,ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น 6.5(มาร์ติน เดมิเคลิส 7 น.46),โฮลเกอร์ บัดสตูเบอร์ 7,ดีเอโก้ คอนเตนโต้ 7.5,อาร์เยน ร็อบเบน 7.5(มิโรสลาฟ โคลเซ่ 4 น.76),บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ 8.5(อลาบา 4 น.78),มาร์ค ฟาน บอมเมล 7,ฮามิต อัลตินท็อป 8,โธมัส มุลเลอร์ 7.5,อิวิก้า โอลิช*9
































อุดบรรลือโลก! งู 10 ตัวแพ้ 1-0 ชิง CL

อุดบรรลือโลก!งู 10 ตัวแพ้ 1-0 ชิง CL

อินเตอร์ มิลานสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการเกมรับด้วยการลงสนามอุด"แชมป์ เก่า"บาร์เซโลน่าตั้งแต่วินาทีแรกยันจบเกมแถมเสียทิอาโก้ ม็อตต้าตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกก่อนเสียท่าถูกเคราร์ด ปิเก้ยิงท้ายเกมแพ้ 1-0 แต่รวมสองนัดชนะ 3-2 เข้าขิงแชมเปี้ยนส์ลีกกับบาเยิร์น มิวนิคสมใจอยาก

แชมป์ เปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เลก 2

วันพุธที่ 28 เมษายน 2553


บาร์ เซโลน่า 1 - 0 อินเตอร์ มิลาน
(อินเตอร์ มิลานผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยประตูรวม 3-2)

ประตู :
1-0 เคราร์ด ปิเก้ น.83

บาร์ซ่าไร้ปูโย ล,หน้าวิทย์-งูขาดปานเดฟ,แสตนโควิช
นี่น่าจะเป็นเกมที่ยากที่สุดเกมหนึ่งของบาร์เซโลน่าเลยทีเีดียว เพราะพวกเขาจำเป็นที่จะต้องทำประตูให้ได้ในเกมนี้อย่างต่ำ ๆ ก็ 2 ลูก แถมยังไม่มีคาเลส ปูโยลกัปตันทีมคนเก่งเนื่องจากติดโทษแบน และอังเดรส อิเนียสต้าที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ส่วนทางอินเตอร์ มิลานไม่มีโกรัน ปานเดฟที่บาดเจ็บ และเดยัน สแตนโควิชติดโทษแบน นอกนั้นก็พร้อมกันอย่างเต็มที่

ครึ่ง แรก

เปโดรได้ลองส่อง
เริ่มเกมมาได้ 2 นาทีเปโดรก็ได้โอกาสลองซัดแบบเหมาะ ๆ ดู จากจังหวะที่เขารับบอลจากชาบี้ทางฝั่งซ้าย ก่อนจะล็อคหลบไมค่อนเข้าไปซัดด้วยขวาแบบเต็มรัก บอลพุ่งแรกแต่ก็หลุดกรอบออกไป

อิบราโชว์ หลักฐาน
นาทีที่ 11 อิบราฮิโมวิชโชว์หลักฐานให้ผู้ตัดสิน เห็น หลังจากที่โดนเป่าว่าไปทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นของอินเตอร์ในจังหวะ ฟรีคิกของบาร์ซ่า ว่าเขาโดนดึงคอเสื้อขาดกระจุยเลยทีเดียว

ต่อมาอีกแค่นาทีเดียว ไมค่อนก็โชว์แทคติกดึงเกมสุด ๆ หลังจากเบียดกับเมสซี่จนตัวหลุดออกไปกระแทกกับป้ายโฆษณานอกสนาม แต่กลับเดินเข้ามาเจ็บในสนามซะงั้น ทำให้แฟนบอล และนักเตะของบาร์ซ่าไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไร

บาร์ซ่าครอง บอลฝั่งเดียว
เข้าสู่นาทีที่ 20 บาร์เซโลน่าได้ครองบอลมากกว่าทางอินเตอร์ มิลานอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็น่าจะเป็นไปตามแทคติกของกุนซือทั้งสองฝั่ง ซึ่งเป๊บน่าจะบอกให้ลูกทีมครองบอลทำเกมบุกเพื่อทำประตู ส่วนน้ามูก็น่าจะบอกให้ลูกทีมตั้งเกมรับให้มั่น แล้าอาศัยหาจังหวะสวน

งู ระส่ำ!ม็อตต้าโดนแดง
นาทีที่ 27 อินเตอร์ มิลานเสียเปรียบอย่างหนัก หลังจากที่ม็อตต้าไปโดนใบแดง จากจังหวะที่เหมือนว่าเขาจะไปใช้มือผลักใส่หน้าของบุสเกตส์ตอนที่ เบียดแย่งบอลกัน กรรมการวิ่งมาแจกใบเหลืองที่ 2 ให้แก่ม็อตต้าทันที ทำให้เขาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

ซึ่งทำให้ในสนามเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที เพราะม็อตต้าไม่พอใจบุสเกตส์ เพราะเขามองว่าออกอาการโอเว่อร์แอคติ้งไป หน่อย และเข้าไปต่อว่าพร้อมกับบีบคอจากด้านหลัง ซึ่งอาจจะทำให้เขาโดนแบนเพิ่มก็เป็นได้จากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ครั้งนี้

ส่วนข้างสนามมูริญโญ่ก็ปรบมือประชดกรรมการไปหนึ่งดอก บ่งบอกได้เลยว่าหลังเกมมีคอมเม้นท์แสบ ๆ คัน ๆ แน่นอน ส่วนหลุยส์ ฟิโก้ก็ขอลงมาโวยกับเขาด้วยอีกคน

เมสซี่หักแล้วซัดลูกถนัด-เซซาร์เซฟ ปลายมือ
6 นาทีต่อมา น่าจะเป็นประตูขึ้นนำของบาร์ซ่าจริง ๆ สำหรับจังหวะที่เมสซี่กระชากตัดเข้าหน้ากรอบเขตโมษ ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยซ้ายไปเสาสองแบบที่เขามักจะทำบ่อย ๆ บอลลอยโค้งกำลังจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่เซซาร์พุ่งปัดออกไปได้ชนิดที่เรี ยกได้เลยว่าปลายข้อนิ้วมือเลยทีเดียว

อิบรา ยิงติดบล็อก
นาทีที่ 38 อิบราฮิโมวิชได้โอกาสยิงใน กรอบเขตโทษ หลังจากที่บอลไปสะกิดโดนอัลเวสจากลูกเปิดเข้าไปในแดนกลาง แต่ติดบล็อกของทางกองหลังอินเตอร์ที่พุ่งเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว

จบ 45 นาทีแรก บาร์ซ่าโลน่าแม้จะมีตัวผู้เล่นมากกว่า แต่ก็ไม่สามารถเจาะทะลุ กำแพงงูยักษ์ไปได้เลย เพราะโอกาสยิงจะ ๆ ไม่มีเลยสักครั้ง จะได้ก็แต่ลูกตั้งเตะ กับจังหวะยิงใกล้ ส่วนเมสซี่ในช่วงครึ่งแรกของนัดนีก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม

ครึ่ง หลัง

เป๊บตัดสินใจเปลี่ยนเอาแม็กซ์เวลล์ลงมา เล่นแทนกาเบรียล มิลิโต้

บาร์ซ่ายังคงเจาะไม่เข้า
เ้ข้าสู่นาทีที่ 60 บาร์เซโลน่าแม้จะได้ครองบอลบุก แต่ก็ไม่สามารถเจาะเข้าไป ในกรอบเขตโทษของอินเตอร์ มิลานได้เลย ส่วนมากมักจะมีจังหวะจากการโยน แบบไม่มีอะไร หรือไม่ก็ลองลุ้นยิงไกลนอกกรอบเขตโทษเท่านั้น

บาร์ซ่าจัดตัวรุก เจฟเฟรน,โบยานลง
นาทีถัดมา เป๊บก็ตัดสินใจเปลี่ยนเอาอิบราฮิโมวิชที่วันนี้เล่นไม่ดี ก่อนจะเอาโบยาน เคอร์กิซลงมา และก็ยังเปลี่ยนเอาบุสเกตส์ออก และส่งเจฟเฟรน ซัวเรซลงไปเล่นแทน

งานนี้เรียกว่าบาร์ซ่าใส่เกมรุกเต็มตัวสุด ๆ แล้ว

น้ามูถอดสไนจเดอร์ออก
นาทีที่ 65 มูริญโญ่ก็ตัดสินใจเปลี่ยนเอาสไนจเดอร์ที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์ และไม่มีส่วนกับเกมนักออกไป โดยส่งเอามุนตารี่ลงมาเล่นแทน

แข้งงูแทคติกแพรว พราว
เข้าช่วงนาทีที่ 70 นอกจากบาร์เซโลน่าจะไม่สามารถเจาะแนวรับของ อินเตอร์ได้แล้วนั้น ยังต้องอดทนกับแทคติกการถ่วงเวลาของนักเตะ อินเตอร์อีกด้วย ซึ่งมีหมดไม่ว่าจะนอน หรือเล่นกันแบบช้า ๆ

รับกระจาย!งูถอดมิ ลิโต้ส่งคอร์โดบ้าลง
นาทีที่ 81 น้ามูโชว์ความเขี้ยวจมดินด้วยการถอดเอาดิเอโก้ มิลิโต้ออก แล้วส่งปราการหลังจอมแกร่งอย่างอิบัน คอร์โดบ้าลงไปเล่นแทน

โบยานโหม่งพลาด เฉย!
นาทีถัดมา บาร์เซโลน่าพลาดโอกาสทอง จากจังหวะที่เมสซี่บรรจงเปิดเข้าไป ในกรอบเขตโทษ แล้วบอลหลุดไปถึงเสาสอง โบยานได้โอกาสโขกเหน่ง ๆ คนเดียว แต่ดันสะบัดมากเกินไป บอลหลุดกรอบไปหน้าตาเฉย น่าเสียดายแทนแท้ ๆ

ปิเก้สุดยอดกอง หน้าาาาาาาา??????
นาทีที่ 83 ในที่สุดบาร์เซโลน่าก็มาได้ประตูขึ้นนำจากความสุดยอด ของเคราร์ด ปิเก้ที่ดันขึ้นไปสูง แล้วหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในกรอบ เขตโทษ เซซาร์พยายามจะออกมาบล็อก แต่ปิเก้แตะหลอกด้วยการหมุนตัวหนึ่ง รอบ แล้วซัดด้วยขวาเข้าไปอย่างเฉียบขาด เกมเริ่มเร้าใจบาร์ซ่าขึ้นนำแล้ว 1-0 ขาดอีกแค่ประตูเดียวเท่านั้น

ชาบี้ ซัดไกล
นาทีที่ 87 ชาบี้ เฮอร์นานเดซได้โอกาสซัดเหน่ง ๆ จากนอกกรอบ บอลพุ่งแรง แต่เซซาร์ก็ทุบบอลออกไปได้ ก่อนที่กองหลังจะช่วยกันเคลียร์ออกไป

โบยาน ซัดตาข่ายแทบขาด แต่ผู้ตัดสินเป่าก่อน!
ในช่วงทดเวลานาที แรก โบยานได้โอกาสซัดเข้าไปตุงตาข่าย ชนิดที่เรียกได้ว่าแฟนบาร์ซ่าเฮ ลั่นทั้งสนามแล้ว แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู เพราะตูเร่ไปทำแฮนด์บอลในจังหวะ ก่อนหน้านั้น

จบ 90 นาที แม้ว่าในช่วงท้ายเกมนั้นบาร์ซ่าจะพยายามบุกแหลก แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำประตูเพิ่มได้ ทำให้อินเตอร์ มิลานที่แม้จะแพ้ไป 1-0 แต่ก็ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้ด้วยสกอร์รวม 3-2 ทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศกับบาเยิร์น มิวนิค

โดยเกมนัดชิงชนะเลิศนั้นจะฟาดแข้งกันในวันที่ 22 พฤษาคม เวลาตี 1.30 ซึ่งนี่ถือว่าเป็นปีแรกของรายการแชมป์เปี้ยนส์ ลีกที่นัดชิงนั้นลงแข่งกันในช่วงสุดสัปดาห์ด้วย

รายชื่อผู้เล่นทั้ง สองทีม

บาร์เซโล น่า : วิคตอร์ บัลเดส 6,กาเบรียล มิลิโต้ 5(แม็กซ์เวลล์ 6 น.45),เคราร์ด ปิเก้ 7,เซย์ดู เกอิต้า 6,ดาเนียล อัลเวส 6.5,ยาย่า ตูเร่ 5,เซอร์กี้ บุสเกตส์ 5.5(เจฟเฟรน 5.5 น.63),ชาบี้ 7,ลีโอเนล เมสซี่ 7,ซลาตัน อิบราฮิโมวิช 5.5(โบยาน 6 น.63),เปโดร 6

อินเตอร์ มิลาน : ฮูลิโอ เซซาร์ 7,วอลเตอร์ ซามูเอล 8,เฟอร์เรร่า ลูซิโอ 7.5,ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ 7.5,คริสเตียน คิวู ,ไมค่อน 8,ทิอาโก้ ม็อตต้า 5,เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ 7,ดิเอโก้ มิลิโต้ 6.5(คอร์โดบ้า - น.81),เวสลี่ย์ สไนจเดอร์ 6.5(มุนตารี่ 6 น.67),ซามูเอล เอโต้ 6.5(มาริก้า - น.85)