Google
 

วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553

ทลายอาถรรพ์!หมูโขกผีแซงเฮ2-1แชมป์คา ร์ลิ่ง

ทำลายถาถรรพ์ของถ้วยนี้ที่ไม่สามารถป้องกันแชมป์ลงไปจน ได้ แม้จะโดนจุดโทษในช่วงต้นเกมส์ไปก่อน แต่ "ปีศาจแดง" ก็มาได้โอเว่นยิงตีเสมอ ก่อนที่รูนี่ย์จะโขกเสียบสามเหลี่ยมส่งให้แมน เชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะแอสตัน วิลล่าไป 2-1

คาร์ลิ่ง คัพ รอบชิงชนะเลิศ

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553


แอสตัน วิลล่า 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตู :
1-0 เจมส์ มิลเนอร์(จุดโทษ) น.5,1-1 ไมเคิ่ล โอเว่น น.13,1-2 เวย์น รูนี่ย์ น.74

มาติน โอนีลล์ใช้ผู้่เล่นที่เคย เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาได้ เพื่อที่จะกลับมาคว้าแชมป์ให้ได้อีก ครั้ง หลังเคยทำได้ในปี 1996 ส่วนทาง "ปีศาจแดง" พักรูนี่ย์ไว้ข้างสนาม แล้วใช้โอเว่น คู่เบอร์บาตอฟล่าตาข่ายในแดนหน้

ครึ่ง แรก

วิลล่าได้จุดโทษ!!!!
เป็นการเริ่ม ต้นเกมส์ที่เลวร้ายสำหรับทางฝั่งแมนฯยูโดยแท้จริง เพราะปล่อยให้อักบอนลาฮอร์กระชากหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ทางวิดิชที่วิ่งตามมาสปีดไม่ทันแล้วแน่นอน ทำให้ต้องดึงเอาไว้ แถมยังตบท้ายด้วยการเสียบแก๊บบี้หัวทิ่ม ทำให้ผู้ตัดสินวิ่งมาเป่าชี้เป็นจุดโทษอย่างไม่ลังเล

เจมส์ มิลเนอร์รับอาสายิงจุดโทษ ซัดด้วยซ้ายคุซแช็คพุ่งผิดทาง แอสตัน วิลล่าออกนำเร็วโคตร 1-0

โอเว่นโชว์กระชาก
ไมเคิ่ล โอเว่นโชว์การใช้สปีดต้นที่ไม่ได้เห็นมานาน กระชากบอลหลบผู้เล่นของวิลล่าบริเวณกลางสนาม ก่อนที่จะแตกหลบคอลลินส์ได้อีก ทำให้คอลลินส์ไม่มีทางเลือกเพราะหากโอ เว่นแตกหลุดไปได้ เผลอ ๆ อาจยาวถึงประตู เลยเสียบสกัดเอาไว้ ทำให้โดนใบเหลืองไป

ก่อนที่คาร์ริคจะเปิดฟรีคิกไม่ขึ้น ทำให้โดนวิลล่าสกัดบอลออกมาได้

เบ บี้ โกลลลลลลลลลลล์!!!!
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอาศัยความผิดพลาดของริชาร์ด ดันน์ที่เก็บบอลไว้กับตัวนานเกินไป ทำให้โดนเบอร์บาตอฟฉกบอลก่อนที่จะ ลากเข้าไปในกรอบเขตโทษ ดันน์วิ่งควบตามหลังมาแก้ตัวด้วยการสไลด์ออกไป จากเท้า จังหวะเป๊ะมาก ๆ แต่บอลไหลมาเกือบกลางเขตโทษ โอเว่นวิ่งมาได้มาได้จังหวะไม่ต้องจับแปด้วยขวาตามน้ำ บอลเลียดเสียบเสาสองเข้าไป แมนฯยูตามตีเสมอแอสตัน วิลล่าแบบทันควัน

และนี่ยังเป็นการยิงประตูสุดสวยต่อหน้าหาบิโอ คาเปลโล่ที่เข้ามาชมเกมส์ในสนามด้วย

มิลเนอร์เกือบหลอน ผีอีก
กองหลังของทั้งสองทีมเหมือนจะเกร็งกันทั้งคู่ เพราะผลัดกันพลาดบ่อยครั้งทั้งที่เกมส์ผ่านไปแค่ 15 นาที โดยจังหวะนี้เป็นโอกาสของเจมส์ มิลเนอร์ที่ได้ลากบอลขึ้นมาหน้ากรอบเขต โทษ กองหลังแมนฯยูมัวแต่ยึกไม่เข้าบอลสักเท่า มิลเนอร์เลยล็อคเข้าซ้ายก่อนจะซัดเต็มตีน ยังดีที่คุซแช็คทุบบอลออกไปได้

ผีรับ แล้วสวน-วิลล่าเริ่มผ่อนเกมส์
หลังพยายามเร่งเกมส์ อย่างหนักสำหรับวิลล่าจนได้ประตูขึ้นนำ แต่ก็มาเสียประตูจากการที่บุกเพลิน จนกองหลังขึ้นสูงแล้วพลาด ทำให้หลังจากผ่าน 20 กว่านาทีไปก็เริ่มผ่อนเกมส์ลง มาบ้าง เพราะทางแมนฯยูใช้จังหวะสวนกลับ เพราะแพ็คเกมส์ให้แน่นในฝั่งตัวเอง แต่การเซตเกมส์รุกยังดูติดขัด

ผีเริ่ม ตั้งเกมส์ได้
หลังจากปล่อยให้วิลล่าครองเกมส์ได้ใน ช่วงต้นเกมส์ แมนฯยูก็เริ่มที่จะตั้งเกมส์ของตัวเองได้ โดยจังหวะที่ทำเกมส์บุกขึ้นไปดูดีขึ้นกว่าในช่วงต้นครึ่งแรกเยอะ แต่ก็ยังไม่มีจังหวะได้ซัดเหน่ง ๆ

โอเว่น เจ็บ-หมูลงแทน
ไมเคิ่ล โอเว่นเหมือนจะบุญมี แต่กรรมบังหรือเปล่า เพราะว่าเขาเล่นในค่อยข้างดีมากในเกมส์นี้ ขยัน และทำประตูได้ด้วย แต่กลับได้รับบาดเจ็บจากจังหวะที่วิ่งควบตามบอลแล้ว เหมือนกล้ามเนื้อต้นขาจะกระตุก ทำให้เซอร์ อเล็กซ์ต้องส่งเวย์น รูนี่ย์ลงมาเล่นแทน

ไม่รู้เหมือนกันว่าทางแอสตัน วิลล่าควรจะดีใจกับอาการบาดเจ็บของโอ เว่นดีไหม

เบอร์บาไ้ด้ฉกบอลอีก-หมูแอบเซ็ง
กองหลังวิลล่า พลาดอีกแล้ว และเกือบโดนลงโทษ จากจังหวะที่คอลลินส์สกัดบอลไปติดตัว เบอร์บาตอฟ ก่อนที่เบอร์บาจะได้บอลแล้วลากไปยิงเองแบบแ้ป้ก ๆ ซะอย่างนั้น ทำเอารูนี่ย์ที่วิ่งขนาบข้างมาแอบเซ็งนิด ๆ

ตี๋ซัด ชนเสาจังเบอร์!!!
แมนฯยูน่าได้ประตูขึ้นนำสุด ๆ จากจังหวะที่ตัดบอลได้กลางสนามโดยปาร์ค ส่งให้เบอร์บาตอฟ แล้วไหลให้กับวาเลนเซียด้านขวา ผู้เล่นวิลล่าดันลื่นล้มทำให้วาเลนเซี ยกระชากเข้าไปเปิด แต่โดนสกัดออกมาได้ บอลไปเข้าทางปาร์คที่วิ่งตามเข้ามา ในกรอบเขตโทษ ซัดเน้น ๆ ผ่านผู้เล่นทั้งสองทีม แต่โดนเสาแบบเต็ม ๆ ก่อนที่จะโดนคูเอญาร์สกัดออกมาไว้ได้

จบ 45 นาทีแรกแบบสุดมันส์ แอสตัน วิลล่าเสมอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่ 1-1

ครึ่งหลัง

ผีต่อบอลสวย-ฟรีเด ลโคตรเซฟ
แมนฯยูทำเกมส์กันขึ้นมาอย่างสวยงาม เริ่มจากจังหวะที่ปาร์คจ่ายบอล ทะลุช่องให้กับเบอร์บาตอฟ ก่อนหอกบัลแกเรียจะตอกส้นให้คาร์ริค ที่วิ่งสอดขึ้นมา ล็อคเข้าขวาแล้วยิงไปที่เสาแรก แต่ฟรีเดลปฏิกริยาโคตรไว พุ่งปัดมือเดียวออกไปได้

ราฟาเอ ลเจ็บเอง
แมนฯยูทำท่าว่าจะต้องเสียผู้เล่นไปอีกคน แล้ว หลังจากที่ราฟาเอลพยายามจะสไลด์สกัดบอลทำให้ต้องเยียดขาเต็มที่ แฟน ๆ ลุ้นเอาใจช่วยอย่างหนัก เพราะหันไปข้างสนามเห็นลูกพี่แกรี่วิ่ง วอร์มอยู่แล้วมันเสียวหัวใจตะหงิด ๆ

ที่สุดแล้วราฟาเอลก็ไม่ไหว เซอร์ อเล็กซ์จึงต้องส่งแกรี่ เนวิลล์ลงมาเล่นแทน

ยังวอลเล่ย์เสียว
น่าหวาดเสียวไม่ น้อยสำหรับจังหวะที่แอชลี่ย์ ยังได้วอลเล่ย์บริเวณเส้นกรอบเขตโทษ แต่แป้กไปหน่อย ทำให้บอลออกหลังไป โดยจังหวะนี้ผู้เล่นของทางแมนฯยู เคลียร์บอลออกมาไม่ดี

คู่หูวาเลน เซีย-หมูโขกหาย!!
เป็นคู่หูในการทำประตูคู่ใหม่ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดแท้ ๆ สำหรับวาเลนเซีย และเวย์น รูนี่ย์ที่จ่ายยิงกันมาหลายต่อหลายลูก ก็มาทำได้อีกครั้งในเกมส์นี้ โดยเป็นจังหวะที่เบอร์บาตอฟจ่ายทะลุช่อง ให้กับวาเลนเซีย ก่อนที่ปีกหน้านิ่งจะเปิดให้กับรูนี่ย์ที่รออยู่ใน กรอบเขตโทษ โขกแบบย้อย ๆ ฟรีเดลพยายามจะกระโดดปัดแล้วแต่ก็ไม่ถึง ทำให้แมนฯยูพลิกกลับขึ้นมานำเป็น 2-1 แล้ว

เบอร์บา เกือบชาร์จเสาแรก
เกือบได้ประตูนำห่างในช่วงเวลาแค่ ไม่กี่นาทีแล้ว หลังเบอร์บาตอฟมีโอกาสเข้าชาร์จที่เสาแรก แต่วิ่งมาช้าไปนิดเดียว ทำให้เข้าไม่ถึงลูกเปิดของรูนี่ย์ได้ทัน

หมู โหม่งชนเสา
เอะอะโหม่งจริง ๆ สำหรับเวย์น รูนี่ย์ ที่โขกลูกเปิดของวาเลนเซียอีกแล้ว แต่คราวนี้โหม่งเน้น ๆ บอลชนเสาแบบเต็ม ๆ ทำให้ไม่ได้ประตูในจังหวะนี้

โอนีลล์ เทหมดหน้าตักใส่หน้า3
ไม่มีทางเลือกแล้วสำหรับมาร์ติน โอนีลล์เพราะเกมส์เป็นรอง และสกอร์ตามหลัง ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนเอายอห์น คาริวลงแทนคูเอลญาร์ใส่หน้า 3 คน แถมยังเปลี่ยนแทนกองหลังอีกด้วย

ผีเกือบ โดนไปแล้ว
เกือบโดนตีเสมอแล้วสำหรับทางแมนฯยู เพราะสกัดบอลจากจังหวะฟรีคิกของวิลล่าไม่ดี ทำให้บอลลอยโด่งเกือบเสียบใต้คาน แต่ยังดีที่ชนคานแล้วเด้งออกหลังไป

ดันน์ สอดโหม่งวืดไปนิดเดียว
จังหวะนี้ถ้าโดนหัวเต็ม ๆ แมนฯยูไม่น่ารอด เพราะดันนฺวิ่งวอดขึ้นมาโหม่งที่เสาสองคนเดียว แต่หวืดไปนิดเดียวเ่ทานั้น

วิลล่า รุกหนัก
แอสตัน วิลล่าพยายามเร่งเกมส์อย่างหนักใน ช่วงเวลาที่เหลือ แต่ยังไม่สามารถหาโอกาสได้จะแจ้งเลยสักที

จบ เกมส์แมนฯยูไนเต็ดเอาชนะแอสตัน วิลล่าไป 2-1 คว้าแชมป์สมัยที่ 2 ติดกันได้อย่างสวยงาม หลังไม่เคยทำได้เลยในรายการนี้

แอสตัน วิลล่า : แบรด ฟรีเดล 7,เจมส์ คอลลินส์ 6,ริชาร์ด ดันน์ 5,สตีเฟ่น วอร์น็อค 6,คาร์ลอส คูเอลญาร์ 5(คาริว 5 น.80),สติลิยาน เปตรอฟ 5,สจ๊วต ดาวนิ่ง 5,เจมส์ มิลเนอร์ 8,แอชลี่ย์ ยัง 5,เอมิล เฮสกีย์ 7,กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 8

แมนเชส เตอร์ ยูไนเต็ด : โทมัส คุซแช็ค 7,ปาทริค เอฟร่า 6,เนมันย่า วิดิช 4,ราฟาเอล 6(แกรี่ เนวิลล์ 6 น.66),โจนาธาน อีแวนส์ 5,ไมเคิ่ล คาร์ริค 6,ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ 8,จี ซุง ปาร์ค 8.5*(กิ๊บสัน 7 น.85),อันโตนิโอ วาเลนเซีย 8,ไมเคิ่ล โอเว่น 7(รูนี่ย์ 8 น.42),ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 8



































































ไม่มีความคิดเห็น: