Google
 

วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553

อุดบรรลือโลก! งู 10 ตัวแพ้ 1-0 ชิง CL

อุดบรรลือโลก!งู 10 ตัวแพ้ 1-0 ชิง CL

อินเตอร์ มิลานสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการเกมรับด้วยการลงสนามอุด"แชมป์ เก่า"บาร์เซโลน่าตั้งแต่วินาทีแรกยันจบเกมแถมเสียทิอาโก้ ม็อตต้าตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกก่อนเสียท่าถูกเคราร์ด ปิเก้ยิงท้ายเกมแพ้ 1-0 แต่รวมสองนัดชนะ 3-2 เข้าขิงแชมเปี้ยนส์ลีกกับบาเยิร์น มิวนิคสมใจอยาก

แชมป์ เปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เลก 2

วันพุธที่ 28 เมษายน 2553


บาร์ เซโลน่า 1 - 0 อินเตอร์ มิลาน
(อินเตอร์ มิลานผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยประตูรวม 3-2)

ประตู :
1-0 เคราร์ด ปิเก้ น.83

บาร์ซ่าไร้ปูโย ล,หน้าวิทย์-งูขาดปานเดฟ,แสตนโควิช
นี่น่าจะเป็นเกมที่ยากที่สุดเกมหนึ่งของบาร์เซโลน่าเลยทีเีดียว เพราะพวกเขาจำเป็นที่จะต้องทำประตูให้ได้ในเกมนี้อย่างต่ำ ๆ ก็ 2 ลูก แถมยังไม่มีคาเลส ปูโยลกัปตันทีมคนเก่งเนื่องจากติดโทษแบน และอังเดรส อิเนียสต้าที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ส่วนทางอินเตอร์ มิลานไม่มีโกรัน ปานเดฟที่บาดเจ็บ และเดยัน สแตนโควิชติดโทษแบน นอกนั้นก็พร้อมกันอย่างเต็มที่

ครึ่ง แรก

เปโดรได้ลองส่อง
เริ่มเกมมาได้ 2 นาทีเปโดรก็ได้โอกาสลองซัดแบบเหมาะ ๆ ดู จากจังหวะที่เขารับบอลจากชาบี้ทางฝั่งซ้าย ก่อนจะล็อคหลบไมค่อนเข้าไปซัดด้วยขวาแบบเต็มรัก บอลพุ่งแรกแต่ก็หลุดกรอบออกไป

อิบราโชว์ หลักฐาน
นาทีที่ 11 อิบราฮิโมวิชโชว์หลักฐานให้ผู้ตัดสิน เห็น หลังจากที่โดนเป่าว่าไปทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นของอินเตอร์ในจังหวะ ฟรีคิกของบาร์ซ่า ว่าเขาโดนดึงคอเสื้อขาดกระจุยเลยทีเดียว

ต่อมาอีกแค่นาทีเดียว ไมค่อนก็โชว์แทคติกดึงเกมสุด ๆ หลังจากเบียดกับเมสซี่จนตัวหลุดออกไปกระแทกกับป้ายโฆษณานอกสนาม แต่กลับเดินเข้ามาเจ็บในสนามซะงั้น ทำให้แฟนบอล และนักเตะของบาร์ซ่าไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไร

บาร์ซ่าครอง บอลฝั่งเดียว
เข้าสู่นาทีที่ 20 บาร์เซโลน่าได้ครองบอลมากกว่าทางอินเตอร์ มิลานอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็น่าจะเป็นไปตามแทคติกของกุนซือทั้งสองฝั่ง ซึ่งเป๊บน่าจะบอกให้ลูกทีมครองบอลทำเกมบุกเพื่อทำประตู ส่วนน้ามูก็น่าจะบอกให้ลูกทีมตั้งเกมรับให้มั่น แล้าอาศัยหาจังหวะสวน

งู ระส่ำ!ม็อตต้าโดนแดง
นาทีที่ 27 อินเตอร์ มิลานเสียเปรียบอย่างหนัก หลังจากที่ม็อตต้าไปโดนใบแดง จากจังหวะที่เหมือนว่าเขาจะไปใช้มือผลักใส่หน้าของบุสเกตส์ตอนที่ เบียดแย่งบอลกัน กรรมการวิ่งมาแจกใบเหลืองที่ 2 ให้แก่ม็อตต้าทันที ทำให้เขาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

ซึ่งทำให้ในสนามเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที เพราะม็อตต้าไม่พอใจบุสเกตส์ เพราะเขามองว่าออกอาการโอเว่อร์แอคติ้งไป หน่อย และเข้าไปต่อว่าพร้อมกับบีบคอจากด้านหลัง ซึ่งอาจจะทำให้เขาโดนแบนเพิ่มก็เป็นได้จากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ครั้งนี้

ส่วนข้างสนามมูริญโญ่ก็ปรบมือประชดกรรมการไปหนึ่งดอก บ่งบอกได้เลยว่าหลังเกมมีคอมเม้นท์แสบ ๆ คัน ๆ แน่นอน ส่วนหลุยส์ ฟิโก้ก็ขอลงมาโวยกับเขาด้วยอีกคน

เมสซี่หักแล้วซัดลูกถนัด-เซซาร์เซฟ ปลายมือ
6 นาทีต่อมา น่าจะเป็นประตูขึ้นนำของบาร์ซ่าจริง ๆ สำหรับจังหวะที่เมสซี่กระชากตัดเข้าหน้ากรอบเขตโมษ ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยซ้ายไปเสาสองแบบที่เขามักจะทำบ่อย ๆ บอลลอยโค้งกำลังจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่เซซาร์พุ่งปัดออกไปได้ชนิดที่เรี ยกได้เลยว่าปลายข้อนิ้วมือเลยทีเดียว

อิบรา ยิงติดบล็อก
นาทีที่ 38 อิบราฮิโมวิชได้โอกาสยิงใน กรอบเขตโทษ หลังจากที่บอลไปสะกิดโดนอัลเวสจากลูกเปิดเข้าไปในแดนกลาง แต่ติดบล็อกของทางกองหลังอินเตอร์ที่พุ่งเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว

จบ 45 นาทีแรก บาร์ซ่าโลน่าแม้จะมีตัวผู้เล่นมากกว่า แต่ก็ไม่สามารถเจาะทะลุ กำแพงงูยักษ์ไปได้เลย เพราะโอกาสยิงจะ ๆ ไม่มีเลยสักครั้ง จะได้ก็แต่ลูกตั้งเตะ กับจังหวะยิงใกล้ ส่วนเมสซี่ในช่วงครึ่งแรกของนัดนีก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม

ครึ่ง หลัง

เป๊บตัดสินใจเปลี่ยนเอาแม็กซ์เวลล์ลงมา เล่นแทนกาเบรียล มิลิโต้

บาร์ซ่ายังคงเจาะไม่เข้า
เ้ข้าสู่นาทีที่ 60 บาร์เซโลน่าแม้จะได้ครองบอลบุก แต่ก็ไม่สามารถเจาะเข้าไป ในกรอบเขตโทษของอินเตอร์ มิลานได้เลย ส่วนมากมักจะมีจังหวะจากการโยน แบบไม่มีอะไร หรือไม่ก็ลองลุ้นยิงไกลนอกกรอบเขตโทษเท่านั้น

บาร์ซ่าจัดตัวรุก เจฟเฟรน,โบยานลง
นาทีถัดมา เป๊บก็ตัดสินใจเปลี่ยนเอาอิบราฮิโมวิชที่วันนี้เล่นไม่ดี ก่อนจะเอาโบยาน เคอร์กิซลงมา และก็ยังเปลี่ยนเอาบุสเกตส์ออก และส่งเจฟเฟรน ซัวเรซลงไปเล่นแทน

งานนี้เรียกว่าบาร์ซ่าใส่เกมรุกเต็มตัวสุด ๆ แล้ว

น้ามูถอดสไนจเดอร์ออก
นาทีที่ 65 มูริญโญ่ก็ตัดสินใจเปลี่ยนเอาสไนจเดอร์ที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์ และไม่มีส่วนกับเกมนักออกไป โดยส่งเอามุนตารี่ลงมาเล่นแทน

แข้งงูแทคติกแพรว พราว
เข้าช่วงนาทีที่ 70 นอกจากบาร์เซโลน่าจะไม่สามารถเจาะแนวรับของ อินเตอร์ได้แล้วนั้น ยังต้องอดทนกับแทคติกการถ่วงเวลาของนักเตะ อินเตอร์อีกด้วย ซึ่งมีหมดไม่ว่าจะนอน หรือเล่นกันแบบช้า ๆ

รับกระจาย!งูถอดมิ ลิโต้ส่งคอร์โดบ้าลง
นาทีที่ 81 น้ามูโชว์ความเขี้ยวจมดินด้วยการถอดเอาดิเอโก้ มิลิโต้ออก แล้วส่งปราการหลังจอมแกร่งอย่างอิบัน คอร์โดบ้าลงไปเล่นแทน

โบยานโหม่งพลาด เฉย!
นาทีถัดมา บาร์เซโลน่าพลาดโอกาสทอง จากจังหวะที่เมสซี่บรรจงเปิดเข้าไป ในกรอบเขตโทษ แล้วบอลหลุดไปถึงเสาสอง โบยานได้โอกาสโขกเหน่ง ๆ คนเดียว แต่ดันสะบัดมากเกินไป บอลหลุดกรอบไปหน้าตาเฉย น่าเสียดายแทนแท้ ๆ

ปิเก้สุดยอดกอง หน้าาาาาาาา??????
นาทีที่ 83 ในที่สุดบาร์เซโลน่าก็มาได้ประตูขึ้นนำจากความสุดยอด ของเคราร์ด ปิเก้ที่ดันขึ้นไปสูง แล้วหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในกรอบ เขตโทษ เซซาร์พยายามจะออกมาบล็อก แต่ปิเก้แตะหลอกด้วยการหมุนตัวหนึ่ง รอบ แล้วซัดด้วยขวาเข้าไปอย่างเฉียบขาด เกมเริ่มเร้าใจบาร์ซ่าขึ้นนำแล้ว 1-0 ขาดอีกแค่ประตูเดียวเท่านั้น

ชาบี้ ซัดไกล
นาทีที่ 87 ชาบี้ เฮอร์นานเดซได้โอกาสซัดเหน่ง ๆ จากนอกกรอบ บอลพุ่งแรง แต่เซซาร์ก็ทุบบอลออกไปได้ ก่อนที่กองหลังจะช่วยกันเคลียร์ออกไป

โบยาน ซัดตาข่ายแทบขาด แต่ผู้ตัดสินเป่าก่อน!
ในช่วงทดเวลานาที แรก โบยานได้โอกาสซัดเข้าไปตุงตาข่าย ชนิดที่เรียกได้ว่าแฟนบาร์ซ่าเฮ ลั่นทั้งสนามแล้ว แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู เพราะตูเร่ไปทำแฮนด์บอลในจังหวะ ก่อนหน้านั้น

จบ 90 นาที แม้ว่าในช่วงท้ายเกมนั้นบาร์ซ่าจะพยายามบุกแหลก แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำประตูเพิ่มได้ ทำให้อินเตอร์ มิลานที่แม้จะแพ้ไป 1-0 แต่ก็ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้ด้วยสกอร์รวม 3-2 ทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศกับบาเยิร์น มิวนิค

โดยเกมนัดชิงชนะเลิศนั้นจะฟาดแข้งกันในวันที่ 22 พฤษาคม เวลาตี 1.30 ซึ่งนี่ถือว่าเป็นปีแรกของรายการแชมป์เปี้ยนส์ ลีกที่นัดชิงนั้นลงแข่งกันในช่วงสุดสัปดาห์ด้วย

รายชื่อผู้เล่นทั้ง สองทีม

บาร์เซโล น่า : วิคตอร์ บัลเดส 6,กาเบรียล มิลิโต้ 5(แม็กซ์เวลล์ 6 น.45),เคราร์ด ปิเก้ 7,เซย์ดู เกอิต้า 6,ดาเนียล อัลเวส 6.5,ยาย่า ตูเร่ 5,เซอร์กี้ บุสเกตส์ 5.5(เจฟเฟรน 5.5 น.63),ชาบี้ 7,ลีโอเนล เมสซี่ 7,ซลาตัน อิบราฮิโมวิช 5.5(โบยาน 6 น.63),เปโดร 6

อินเตอร์ มิลาน : ฮูลิโอ เซซาร์ 7,วอลเตอร์ ซามูเอล 8,เฟอร์เรร่า ลูซิโอ 7.5,ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ 7.5,คริสเตียน คิวู ,ไมค่อน 8,ทิอาโก้ ม็อตต้า 5,เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ 7,ดิเอโก้ มิลิโต้ 6.5(คอร์โดบ้า - น.81),เวสลี่ย์ สไนจเดอร์ 6.5(มุนตารี่ 6 น.67),ซามูเอล เอโต้ 6.5(มาริก้า - น.85)
























































ไม่มีความคิดเห็น: