Google
 

วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

เลือดแห่งชัยชนะ! ผีล้างแค้นหงส์พลิกแซงนำฝูง

เลือดแห่งชัยชนะ!ผีล้างแค้นหงส์พลิก แซงนำฝูง

"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลทำภาระกิจหักแต้ม เพื่อไม่ให้เสียสถิติเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษล้มเหลวหลังแมนฯ ยูไนเต็ดยิงแซง 2 ลูกรวดจากรูนีย์และปาร์ค จี ซองที่หลั่งเลือดทำประตูก่อนพา ทีมรักขึ้นนำเป็นจ่าฝูงชนิดสะใจกองเชียร์ที่อัดอั้นรอคอยวันนี้มา นานแสนนาน

พรี เมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2553


แมนฯยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล

ประตู : 0-1 ตอร์เรส น.5,1-1 รูนีย์ น.12(จุดโทษ),2-1 ปาร์ค จี ซอง น.60



ศึก"เร้ดไฟท์"หรือ"แดงเดือด"ในเวอร์ ชั่นบ้านเราเป็นการพบกันถูกที่ถูกเวลาเพราะฟอร์มช่วงหลังของลูก ทีมราฟาเอล เบนิเตซเริ่มมีน้ำมีนวลแม้จริงๆแล้วจะชนะแต่ในบ้านก็ตาม ส่วน"ปีศาจแดง"กระหายชัยชนะนัดนี้เพื่อกลับไปเป็นจ่าฝูงให้ได้

ราฟาใช้ลูคัส เลว่ายืนคู่ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ในแดนกลางตามเชิงยามออก นอกบ้านแถมไรอัน บาเบิ้ลกลับไปนั่งสำรองเพื่อใช้มักซี่ โรดริเกซที่ติดคัพไทยูโรป้า ลีกหรือพูดง่ายๆคือตัวรุกนั่งสำรองกันหมด ทั้งบาเบิ้ล,เบนายูนและอาควิลานี่

ส่วนเจ้าบ้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดส่งแข้งจอมขยันลงอย่างคึกคักทั้ว เฟลทเชอร์,คาร์ริค,ปาร์ครวมทั้งตัวสร้างสรรค์เกมอย่างนานี่และวา เลนเซียโดยที่ขาดไม่ได้คือดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ลีกอย่าง เวย์น รูนีย์

ครึ่งแรก

ผี ช็อก!ตอร์เรสโขกหาย 1-0
เกมที่ดูเชิงกันอยู่และไม่กล้าผี ผลามจากนักเตะทั้งสองทีมเอาเข้าจริงแค่ 5 นาที"หงส์แดง"กลับขึ้นนำหน้าตา เฉยเริ่มจากไมเคิ่ล คาร์ริคเงอะงะกลางสนามกำลังจะเสียบอลเลยล้มตัวรีบ หวดทิ้งบอลไปถูกกรรมการเป็นเจอร์ราร์ดเก็บตกแล้วลากขึ้นมาก่อนแทง ทะลุให้เคาท์บอลไหลไปถึงเส้นหลังเหมือนจะแรงแต่แข้งไตรกีฬาวิ่งมา ตบย้อยจังหวะเดียวข้ามหัวริโอ เฟอร์ดินานด์แล้วเป็นตอร์เรสที่สอด มาจากด้านหลังโขกเน้นๆ 7 หลาเสียบใต้คานผ่านมือฟาน เดอร์ ซาร์เข้าไปหงายเงิบกันไป ลิเวอร์พูลพลิกนำ 1-0

มาสช์ทำ ฟาว์ล หมูกดจุดโทษเจ๊า
แต่นาทีที่ 10 ผีแดงมาได้จุดโทษหลังวาเลนเซีนลากบอลฝ่ากำลังจะเข้าเขตโทษแล้วมาส เคราโน่ไปฉุดไปดึงแล้วปีกรถด่วนไปล้มในเขตก่อนที่ฮาวเวิร์ด เวบบ์จะชี้ให้เป็นจุดโทษโดยมาสช์ได้ใบเหลืองจากนั้นไม่นานตอร์เรส ที่เข้ามาโวยระเบิดอารมณ์และหวดตรงวงกลมจุดโทษซะดินกระจุยต่อ หน้ารูนีย์จน
และเป็น"หมูพลิ้ว"ที่วิ่งมายิงติดเซฟเรน่าที่พุ่งปัดซ้ายมือของ ตัวเองแต่บอลตกตรงหน้าหอกทีมชาติอังกฤษที่ซ้ำเหน่งๆโล่งๆเข้าไป 1-1 แล้ว

ขิงแทงตอร์เรสหลุดเสียว
อีก 6 นาทีต่อมาเคาท์ไหลบอลมาหน้าเขตโทษให้เจอร์ราร์ดวิ่งมาเอา บอลแล้วแทงตัดหลังเนวิลล์ให้ตอร์เรสวิ่งหลุดเข้าเขตโทษแต่บอลลึก ไปนิดทำให้ฟาน เดอร์ ซาร์ปรี่ออกมาล้มตัวรับบอลแต่ตอร์เรสกระโดดหลบแบบ ไม่สูงเท้าซ้ายไปเกี่ยวตัวจนน้าเอ็ดดี้ลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าบอกเจต นาหรือเปล่ากระโดดได้ไม่กระโดด

ปาร์ค โขกเหน่งๆไม่เข้า
นาที 23 ยูไนเต็ดเกือบพลิกขึ้นนำหลังอินซัว สงสัยไม่ได้ศึกษาการเล่นของวาเลนเซียที่วิ่งมาเอาบอลตรงปีกขวา แล้วเลี้ยงจี้เข้าหาก่อนแตะออกขวาแล้วเปิดย้อยให้ปาร์ควิ่งมาโขก 7 หลาบอลโดนบางเฉี่ยวออกเสาอย่างน่าเสียดาย

นานี่ ซัดเกือบเสียบเสา
เกมรุกของทีมเยือนชักบุกไม่ขึ้นแถม นาที 29 แนวรับและมิดฟิลด์พลาดปล่อยให้นานี่เลี้ยงขึ้นมาเรื่อยๆไม่มีใคร เข้าเลยสบโอกาสส่องตรงหน้าเขตบอลเลียดเบียดเสาร้อนถึงเรน่าล้มตัว ปัดออกหลังหวุดหวิด

เกมนิ่ง แล้ว
ความมันของเกมช่วงครึ่งชั่วโมงแรกจนใกล้ๆท้ายเกม ลดหายไปเยอะเพราะลิเวอร์พูลดึงช้าค่อยๆเคาะแต่พอไปไม่ได้ก็โยนยาว ก่อนที่ตอร์เรสจะเล่นไม่ได้เพราะลูกโด่งแพ้เซนเตอร์แต่พอยูไนเต็ด ได้บอลกลับมาบุกก็ไปไม่เป็นเช่นกันเพราทีมเยือนขึงโซนเอาไว้หลาย ชั้นเลยทีเดียว

หมูปั่น ฟรีคิกทดเจ็บ
ช่วงทดเจ็บวันนี้คาร์ราเกอร์รับหน้าที่ ตามประกบรูนีย์และเข้าบอลค่อนข้างพรวดและโฉ่งฉ่างมาเจอใบเหลือง ไล่หวดหน้าเขตโทษทั้งเฟลทเชอร์และรูนีย์จนหัวทิ่มและเป็นหมูพลิ้ว รับหน้าที่ปั่นฟรีคิกบอลข้ามกำแพงแต่เบาจนเรน่าวิ่งมารับเข้ามือสบายๆ หมดครึ่งแรกสกอร์เสมอกัน 1-1

ครึ่ง หลัง

ปาร์คส่องเข้ามือเรน่า
ลิ เวอร์พูลที่เริ่มด้วยความคะนองพาบอลไปป้วนเปี้ยนหน้าเขตโทษเจ้า ถิ่นอยู่พักนึงแต่นาที 51 รูนีย์ฝากบอลให้ปาร์คลากเลี้อยหลอกคู่ เซนเตอร์ทีมเยือนหน้าเขตโทษก่อนตะบันด้วยอีซ้ายบอลเข้ามือเรน่า ที่รับสบายๆ

ปาร์ คฮีโร่พุ่งโขกตุง 2-1
"หงส์แดง"หันไปตั้งรับกันเต็มตัวโดย ที่ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายถ่ายบอลหาช่องทำประตูเรียกว่าแข้งทีมเยือน เล่นกันรัดกุมและช่วยกันไล่ได้ดีแต่ผ่านมาถึงหนึ่งชั่วโมงเจ้า ถิ่นขึ้นนำจนได้จากลูกที่รูนีย์ได้บอลตรงหน้าเขตโทษแต่ไม่รู้ทำยังไง เพราะแนวรับเด็กราฟายืนกันเยอะมากเลยป้ายออกปีกขวาให้เฟลทเชอร์ ที่มองแล้วบรรจงเปิดมาให้ปาร์คพุ่งโหม่งตอร์ปิโดทั้งตัวตัดหน้า GJ จากระยะ 6 หลาเข้าไปไม่เหลือ ยูไนเต็ดพลิกนำแล้ว 2-1

แดง เดือดแล้ว
นาที 67 บอลไม่มันแต่มวยมันกว่าจังหวะที่ลูคัส มัวแต่นึกถึงหน้าพ่ออยู่เลยเจอเฟลทเชอร์แย่งบอลตรงกลางสนามดื้อๆ ก่อนที่เดิร์ก เคาท์จะมาช่วยชิดขี้เช็ดเยี่ยวแต่ไปเลาะจากด้านหลังจน เทพเฟลทช์ลุกมาจะเอาเรื่องก่อนวุ่นวายแล้วเวบบ์ต้องมาห้ามทัพกัน ยกใหญ่

อาควิ ลมาแล้ว
ตอนนี้เกมแหลกกันมันแล้วโดยที่ยูไนเต็ดปู พรมเปิดเกมรุกใส่อย่างมั่นใจทำให้ลิเวอร์พูลต้องยกระดับการวิ่ง เพิ่มมากขึ้นไปอีกแต่นาที 73 ราฟาตัดสินใจส่งอาควิลานี่ลงสนามแต่ ดันเก็บทั้งลูคัสและมาสเคราโน่ไว้และเลือกเอาเคาท์ออก

ลูคัส ออกเบายูนแทน
ช่วงท้ายเกมลิเวอร์พูลเริ่มขยับขึงได้ มากขึ้นเรื่อยๆหลังมีทั้งอาควิลานี่และบาเบิ้ลลงมาช่วยเกมรุกแถม ราฟาบอกทนไม่ไหวเอาเบนายูนมาช่วยเพื่อนอีกครั้งและคราวนี้ร่ำไห้ ที่ข้างสนามเพราะถอดลูคัสที่เลี้ยงมาตั้งแต่ตัวแดงๆออกจากสนาม

หมูโซ โล่ได้ลุ้น
ก่อนหมดเวลา 4 นาทียูไนเต็ดเกือบได้ลูกปิดกล่องหลังรูนีย์ รับบอลจากปาร์คแล้วเลี้ยงจี้เข้าหาแอกเกอร์ก่อนกระชากเข้าในเขต โทษแล้วล็อกจนถลำแต่ตอนยิงเลือกหักข้อซัดเสาแรกลอดดากแอกเกอร์บอล เข้าข้างตาข่ายเสียวกันทั้งสนาม

ตอร์เรส ซัดจ่อๆแป๊กช็อก
นาทีสุดท้ายตอร์เรสวันนี้ความเฉียบ ขาดหน้าประตูหายไปเยอะหลังเจอร์ราร์ดวิ่งมาตบบอลจากริมกรอบโทษ เป็นอาควิลานี่วิ่งหลอกให้ตอร์เรสง้างเท้าซัดเหน่งๆไร้ตัวประกบ ตรงระยะ 10 หลาแต่ดันเตะวืดแถมเบนายูนมาโขกซ้ำเหน่งๆก็เบาเข้ามือฟาน เดอร์ ซาร์อีก

หมดเวลาเกมรุกที่ไร้พิษสงของลิเวอร์พูลไม่สามารถทำอะไรยูไนเต็ดได้ โดยที่ตอร์เรสคนเดียวไปไม่รอดทำให้"ปีศาจแดง"แซงอาร์เซนอลขึ้นนำ เป็นจ่าฝูงส่วน"หงส์แดง"สัญญาณอันตรายมาแล้วเพราะยังตามหลัง สเปอร์สที่อยู่อันดับ 4 อยู่ 4 แต้มแถมเตะมากกว่าหนึ่งนัดโดยเหลือ โปรแกรมอีก 7 นัดเท่านั้น

รายชื่อ นักเตะทั้งสองทีม

แมนฯยูไนเต็ด :
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,แกรี่ เนวิลล์,เนมันย่า วิดิช ,ปาทริซ เอวร่า,อันโตนิโอ วาเลนเซีย ,ดาร์เรน เฟลทเขอร์,ไมเคิ่ล คาร์ริค,ปาร์ค จี ซอง,นานี่(กิกส์ น.79),เวย์น รูนีย์

ลิ เวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,เกล็น จอห์นสัน,เจมี่ คาร์ราเกอร์ ,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,เอมิเลียโน่ อินซัว,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ,ลูคัส เลว่า(เบนายูน น.84),เดิร์ก เคาท์(อาควิลานี่ น.73),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,มักซี่ โรดริเกซ(บาเบิ้ล น.76),เฟร์นานโด ตอร์เรส




































ไม่มีความคิดเห็น: